Avatar 3
มหากาพย์แห่งแพนโดร่าบทต่อไป ที่จะพาเราไปพบกับ 'ด้านมืด' ของชาวนาวี และขยายขอบเขตของจินตนาการไปสู่ดินแดนที่ไม่เคยมีใครกล้าฝันถึง
กฎข้อแรกของการวิจารณ์ภาพยนตร์คือ 'อย่าเดิมพันสวนทางกับ เจมส์ คาเมรอน' ในขณะที่ 'Avatar 3' กำลังจะมาถึงในปลายปีนี้ โลกภาพยนตร์ต่างจับจ้องว่าเขาจะสามารถปฏิวัติวงการได้อีกครั้งหรือไม่ ความท้าทายของภาคนี้ไม่ใช่แค่การสร้างภาพที่สวยงามกว่าเดิม แต่คือการมอบเรื่องราวที่มีความซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้ เพื่อพิสูจน์ว่าแฟรนไชส์นี้มีดีมากกว่าเทคโนโลยี
การเปิดตัว 'เผ่าเถ้า' (Ash People) ชาวนาวีแห่งภูเขาไฟ คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด มันทำลายภาพจำที่ว่าชาวนาวีคือผู้รักสงบและเชื่อมโยงกับธรรมชาติในทางที่ดีเสมอไป การนำเสนอชาวนาวีที่มีวัฒนธรรมและแนวคิดที่ดุดันและแตกต่าง จะสร้างมิติใหม่ให้กับโลกของแพนโดร่าอย่างสิ้นเชิง มันอาจนำไปสู่ความขัดแย้งภายในระหว่างชาวนาวีด้วยกันเอง ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวไม่แพ้มนุษย์จากฟากฟ้า
เรื่องราวของครอบครัวซัลลีจะต้องเติบโตขึ้นไปอีกขั้น เราอาจได้เห็นการก้าวกระโดดของเวลาที่ทำให้ลูกๆ ของเจคเติบโตเป็นผู้ใหญ่และมีเส้นทางของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังลึกลับของคิรีและความเชื่อมโยงของเธอกับเอวา จะต้องเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวอย่างแน่นอน ภาคนี้จะเปลี่ยนจากเรื่องราวการเอาชีวิตรอด ไปสู่สงครามแห่งชะตากรรมของคนรุ่นต่อไป
ในแง่ของภาพ เจมส์ คาเมรอน ย่อมไม่ทำให้เราผิดหวัง จินตนาการถึงความแตกต่างสุดขั้วระหว่างโลกใต้ทะเลที่เรืองรองในภาคก่อน กับดินแดนภูเขาไฟที่คุกรุ่นไปด้วยลาวาและเถ้าถ่าน นี่คือโอกาสในการออกแบบสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศใหม่ทั้งหมดที่ปรับตัวเข้ากับความโหดร้ายของธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำสารสำคัญของเรื่องราวเกี่ยวกับพลังแห่งการปรับตัวของสิ่งมีชีวิต
ในขณะเดียวกัน ภัยคุกคามจากมนุษย์ที่นำโดยนายพลอาร์ดมอร์และควอริตช์ในร่างอวตารจะยิ่งทวีความเข้มข้นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น พวกเขาเรียนรู้จากความพ่ายแพ้และจะกลับมาพร้อมกับยุทธวิธีใหม่ที่โหดเหี้ยมกว่าเดิม สงครามครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่การแย่งชิงทรัพยากร แต่เป็นการพยายามทำลายล้างเผ่าพันธุ์อย่างแท้จริง
คำถามสุดท้ายที่ 'Avatar 3' ต้องตอบให้ได้ คือมันจะสามารถสร้างความผูกพันทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งทัดเทียมกับความยิ่งใหญ่ทางภาพได้หรือไม่ ด้วยการเดิมพันที่สูงขึ้น ความขัดแย้งที่ซับซ้อนขึ้น และโลกที่กว้างใหญ่ขึ้น เจมส์ คาเมรอน กำลังจะพาเรากลับสู่แพนโดร่าอีกครั้ง และเราทุกคนต่างคาดหวังว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเหมือนเช่นเคย