The Batman – Part II
การหวนคืนสู่เงาของเมืองบาป ที่ซึ่งอัศวินรัตติกาลต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่กัดกินจิตวิญญาณและบททดสอบครั้งใหม่ในการเป็นแสงสว่างแห่งกอธแธม
ในขณะที่วันฉายใกล้เข้ามาทุกขณะ ความคาดหวังต่อ 'The Batman – Part II' ก็ยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นเป็นทวีคูณ แมตต์ รีฟส์ ได้สร้างโลกของกอธแธมที่สมจริงและสิ้นหวังได้อย่างสมบูรณ์แบบ และในภาคต่อนี้ เราคาดหวังการดำดิ่งที่ลึกยิ่งกว่าเดิมสู่จิตใจอันแตกสลายของบรูซ เวย์น และสังคมที่เน่าเฟะของเมืองนี้ นี่ไม่ใช่แค่การรอคอยหนังซูเปอร์ฮีโร่ แต่คือการรอคอยภาพยนตร์อาชญากรรมชั้นดีที่จะขยายพรมแดนของเรื่องเล่าในแบบฉบับของตนเอง
พัฒนาการของบรูซ เวย์น คือหัวใจสำคัญที่ทุกคนจับตามอง จากตอนจบของภาคแรกที่เขาตระหนักว่าต้องเป็นมากกว่า 'การล้างแค้น' ภาคนี้จะเป็นบททดสอบที่แท้จริงของอุดมการณ์นั้น เขาจะสร้างความหวังขึ้นมาในเมืองที่คุ้นชินกับความมืดได้อย่างไร? เราอาจได้เห็นบรูซ เวย์นที่ต้องออกมาสู่แสงสว่างมากขึ้น ใช้ทรัพยากรและอิทธิพลของตระกูลเวย์นในการต่อสู้กับคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นการเปิดศึกสองด้านที่อันตรายและซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม
ข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับการขยายทำเนียบวายร้ายยังคงสร้างความตื่นเต้นอย่างต่อเนื่อง การมาถึงขององค์กรลับอย่าง 'ศาลเค้านกฮูก' (Court of Owls) ดูจะเป็นทิศทางที่น่าสนใจที่สุด เพราะมันจะเปลี่ยนสเกลของเรื่องราวจากการต่อสู้กับอาชญากรตามท้องถนน ไปสู่การขุดรากถอนโคนทฤษฎีสมคบคิดที่ฝังรากลึกในประวัติศาสตร์ของกอธแธมและตระกูลเวย์นเอง นี่คือศัตรูที่แบทแมนไม่สามารถใช้เพียงกำลังเพื่อเอาชนะได้
เมืองกอธแธมจะยังคงเป็นตัวละครเอกที่ทรงพลังเช่นเคย เราคาดหวังที่จะได้สำรวจพื้นที่ใหม่ๆ ของเมืองที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผย ทั้งย่านเสื่อมโทรมที่กฎหมายเข้าไม่ถึง หรือคฤหาสน์ของชนชั้นสูงที่ซ่อนความลับอันดำมืดไว้เบื้องหลัง และแน่นอนว่าดนตรีประกอบของ ไมเคิล จิอัคคิโน จะกลับมาสร้างบรรยากาศที่หม่นเศร้าและกดดันราวกับเป็นเสียงลมหายใจของเมืองนี้
ความสัมพันธ์ของบรูซกับตัวละครรอบข้างอย่าง อัลเฟรด และ ผู้หมวดกอร์ดอน จะต้องถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง อัลเฟรดอาจต้องรับมือกับสภาพจิตใจของบรูซที่ดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่กอร์ดอนต้องเสี่ยงกับตำแหน่งหน้าที่การงานและความปลอดภัยของตนเองเพื่อรักษาความร่วมมือที่เปราะบางนี้ไว้กับแบทแมน
สิ่งที่ทำให้ 'The Batman – Part II' เป็นที่น่าจับตามองที่สุด คือคำมั่นสัญญาที่มันจะมอบประสบการณ์ที่เน้นหนักด้านจิตวิทยาและชั้นเชิงการสืบสวนมากกว่าฉากแอ็กชันระเบิดภูเขาเผากระท่อม มันจะเป็นการเดินทางที่ช้าๆ ทรมาน และชวนให้ผู้ชมตั้งคำถามถึงเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความยุติธรรมและความบ้าคลั่งในจิตใจของอัศวินรัตติกาลผู้นี้